Dawdle Man

29 July 2005

Norwegian Wood

หากเป็นไปได้ ผมอยากขอให้คณะกรรมการจัดทำพจนานุกรมฉบับไหน ภาษาใดก็ได้ เพิ่มความหมาย หรือคำจำกัดความ ของคำว่า Norway หรือ นอร์เวย์ ว่า “แพง...แพงโคตรพ่อโคตรแม่” นอกเหนือจาก “ประเทศยุโรปหนึ่งในกลุ่มแสกนดิเนเวีย”

จริงๆ ครับ

ผมเป็นคนโชคดี มีโอกาสเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศหลายครั้ง และใช้เวลาช่วงสำคัญของชีวิตอยู่ต่างแดนหลายปี

เชื่อว่าบางคนที่เคยมีประสบการณ์คล้ายคลึงกันนี้ ความเชื่อข้อหนึ่งว่า “หากจะซื้ออะไรแล้ว อย่าคำนวนกลับมาเป็นมูลค่า เงินบาท ไม่เช่นนั้นแล้ว คุณจะไม่ได้ซื้ออะไรเลย”

ความเชื่อที่ว่านี้ ไม่ได้ตั้งอยู่บนสมมติฐานที่ว่า ทุกคนนามสกุล “Gates” “Buffet” “Whalton” หรือแม้แต่ “ชินวัตร” หากแต่อยู่บนพื้นฐานความแตกต่างทางเศรษฐกิจ (Economic Fundamental) ที่ว่าแต่ละประเทศมีระดับรายได้ต่อหัวที่ไม่ทัดเทียมกัน มีต้นทุนผลิตสินค้าที่ไม่เหมือนกัน ฯลฯ

จึงไม่แปลกที่ ราคาสินค้าที่เมืองไทยใน Numeric Term มีค่าต่ำกว่าบางประเทศหลายเท่าตัวนัก

น่าแปลกที่ว่า ประสบการณ์เดินทางไปต่างประเทศ 2-3 ปีให้หลังมานี้ เริ่มสั่นคลอนความเชื่อดั้งเดิมนั้นเสียแล้ว

สามปีที่แล้ว มีโอกาสได้ไปร่วมงาน Model WTO ที่สวิสเซอร์แลนด์ เป็นเวลา 4 วัน บวกกับท่องเที่ยวคนเดียวอีก 4 วัน เป็นครั้งแรกที่บ่นว่าค่าครองชีพที่นี่สูงมากๆ

จำได้สนิทใจว่า อาหารกลางมื้อแรกที่ตกถึงท้องเป็นแซนวิชขนาดฝรั่งกิน 1 คู่ กับน้ำผลไม่ขวดเล็ก ราคา 12 ฟรังค์ ราคานี้ถูกกว่า Double Cheese Burger ของ Burger Kings ที่มี Potato Chips แถมมาด้วยอยู่ 2 ฟรังค์ และทุกๆ อย่างมีมูลค่าแพงมากๆ เคยบอกพ่อเล่นๆ ว่า หากจะมาช๊อปปิ้งประเทศนี้ ควรนำเงินมาซักล้านบาท

คูณ 30 จะได้ราคาเป็นเงินบาท

เคยถามเพื่อนชาวเยอรมันว่า หากข้ามพรมแดนไปแล้ว ราคาของพวกนี้จะเท่ากันกับที่สวิสหรือไม่ เขาตอบว่าคงราวๆ 30-40% ต่ำกว่านั้น

ขณะที่ผมกำลังเขียน Blog อยู่นี้ ผมมาอยู่ที่ Norway ได้สัปดาห์นึงแล้ว เริ่มมีความรู้สึกแบบ Nostalgia เหมือนได้กลับไปอยู่ที่สวิสอีกครั้ง

Hot Dog ชิ้นละ 25 โคลนโค้กขนาด 500ml บรรจุขวด Pet ราคา 20 โคลน ค่าโดยสารรถบัสระหว่างเมือง 2 ชั่วโมง หัวละ 260 โคลน ฯลฯ

1 โคลนมีค่าประมาณ 6.50 บาท และมีท่าทีที่จะแข็งตัวขึ้นเรื่อยๆ เพราะว่า สกุลเงินนอร์วีเจี้ยนโคลน มี Positive Coloration กับราคาน้ำมันโลก เพราะน้ำมัน และก๊าซธรรมชาติ เป็นรายได้หลักของประเทศนี้

นอร์เวย์เป็นประเทศผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่ม OPEC ที่ใหญ่ที่สุด พลังงานที่แฝงตัวใต้ทะเลของนอร์เวย์ มีมูลค่ามหาศาล นอกจากเหล่าปลาแฮริ่ง และซาลมอน ที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก ทำให้นอร์เวย์เป็นประเทศที่มั่งคั่งที่สุดประเทศหนึ่งในโลก

ดูข้อมูลเศรฐกิจของ นอร์เวย์ได้ที่นี่
http://devdata.worldbank.org/external/CPProfile.asp?SelectedCountry=NOR&CCODE=NOR&CNAME=Norway&PTYPE=CP

ที่น่าแปลกใจก็คือ เคยคุยกับคนที่ทำงานเกี่ยวกับเศรษฐกิจในประเทศนี้ เขาบอกเล่นๆ ว่า นอร์เวย์มีความเป็น “คอมมิวนิสต์” ยิ่งกว่าจีนเสียอีก

ระบบสังคม-เศรษฐกิจแบบ Welfare State ของประเทศแสกนดิเนเวีย ที่ อ.สมบูรณ์ แห่งเศรษฐศาสตร์ ธรรมศาสตร์ กล่าวว่ามันคือ Utopia ที่เขาใฝ่ฝันถึง ทำให้รัฐบาล มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่ง ในการจัดสรรทรัพยากรเศรษฐกิจ และการจัดสรรสวัสดิการสังคมให้มีประสิทธิภาพ

จึงไม่แปลกใจที่ประเทศนี้มีระบบภาษีที่หฤโหด ที่สุดประเทศหนึ่งในโลก

แต่ก็เป็นประเทศที่มีค่าสัมประสิทธิ์ Gini Coefficient ต่ำด้วย

ฤดูที่เหมาะสำหรับการท่องเที่ยงที่นอร์เวย์ มากที่สุดคือ ฤดูร้อน (June-August) อากาศเย็นสบาย ต้นไม้เขียวงามสดใส ต่างกับฤดูอื่นๆ ที่พื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศ เต็มไปด้วยหิมะ

นอร์เวย์ เป็นประเทศที่เหมาะสำหรับผู้ชื่นชอบ การท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ – เดินป่า ปีนเขา ดูนก ตกปลา - ที่อยากหลีกหนีแสงสีเสียง และความศิวิไลซ์ ของป่าคอนกรีตสักระยะ

แต่อย่าหวังว่าประเทศนี้เป็นสวรรค์ของนักช๊อป เพราะทุกอย่างมัน "แพงโคตรพ่อโคตรแม่จริงๆ"

0 Comments:

Post a Comment

<< Home